ถึงวันนี้ [10 ธันวาคม 2556] รัฐบาลชุดที่คุณภาพต่ำที่สุดในประเทศไทย
และคิดว่าน่าจะเป็นรัฐบาลที่คุณภาพต่ำที่สุดในโลกด้วย ก็ยุบสภาไปแล้ว เพราะ เกิดม็อบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกเช่นเดียวกัน
นายกรัฐมนตรีที่ “ฉลาดน้อยที่สุด”
ในโลก เพราะ อ่านว่า “ถนนคอนกรีต” เป็น “ถนน คอ-นก-รีต” นี่ ครูภาษาไทยอย่างผม งงจริงๆ ว่า
อ่านไปได้อย่างไร
ก็คงหมดอาชีพในทางการเมืองไปด้วยเช่นเดียวกัน
ถึงตอนนี้ มีข่าวฝ่ายสนับสนุนออกมาว่า จะให้ลงสมัครใหม่
เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง ผมว่า
เมื่อถึงคราวเลือกตั้งจริงๆ
พรรคคงไม่ให้สมัครแน่ๆ
หรือว่าได้เข้ามาใหม่อีกครั้งก็อาจจะไม่ได้เป็นนายกฯ
พรรคพวกก็คงปลอบใจไปอย่างนั้นเอง เพราะ
คงไม่มีใครอยากได้นายกรัฐมนตรีที่ฉลาดน้อยอย่างนี้อีกแล้ว
นอกจากจะมีนายกรัฐมนตรีอย่างที่กล่าวมาแล้ว
รัฐบาลชุดที่คุณภาพต่ำที่สุดในประเทศไทยคณะนี้ ก็ยังมีรัฐมนตรีที่ “โกหก” เอาดื้อๆ โกหกแบบหน้าด้านๆ อีกด้วย
ผมไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลยว่า จะมีรัฐมนตรีที่โกหกแบบหน้าด้านๆ กันอย่างนี้
กลับมาถึงการประท้วงอันยิ่งใหญ่ของประชาชนหนนี้กัน และก็มาถึงประเด็นที่ผมต้องการเขียน คือ
การที่มีนักศึกษาเสียชีวิตไปกับเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์นี้ ทำให้ทหารแสดงบทบาทพระเอกอีกครั้งหนึ่ง ในหลายๆ
ครั้งของประวัติศาสตร์ชาติไทย สำหรับตัวโกงก็คงเป็นตำรวจอีกเหมือนเดิม
ผมขอบอกก่อนว่า การที่มีคนเสียชีวิตน้อย บาดเจ็บน้อย
ไม่เป็นไปตามคำทำนายของพวกโหรซาดิสม์ทั้งหลายนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่าง
อย่างหนึ่งในนั้นก็คือ พวกเก่งๆ วิชาธรรมกายทำวิชาช่วยด้วย
อย่างที่ผมเขียนไปแล้ว
คราวนี้มาถึงระบบกรรม
คนส่วนใหญ่ชอบเขียนว่า “กฎแห่งกรรม” ผมไม่ค่อยชอบใช้เท่าไหร่นัก
เพราะไปเลียนแบบศัพท์ของวิทยาศาสตร์เขามา
ศัพท์ก็มาจาก “Law of …..” อะไรก็ว่ากันเป็น “กฎแห่งกรรม” จึงเป็นสำนวนมาจากภาษาอังกฤษ ที่มีกลิ่นอายอิทธิพลของวิทยาศาสตร์
ในเมื่อวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยจะชอบศาสนาเท่าไหร่นัก เราก็อย่าไปใช้ศัพท์ของเขา ผลิตศัพท์ของเราเองขึ้นมาดีกว่า
ศัพท์เดิมเขาเรียน “กรรมนิยาม” ถ้าใช้ศัพท์เดิมก็คงจะงงไปอีก ก็เลยใช้ศัพท์ว่า “ระบบกรรม”
ดีกว่า
ตั้งแต่นี้ไป ระบบกรรมของศาสนาจะทำหน้าที่เร็วขึ้น
และมีประสิทธิผลมากขึ้น
พวกที่สร้างกรรมชั่วทั้งหลาย ไม่ว่าเขาจะใช้ให้ทำ
หรือเขาไม่ได้ใช้ให้ทำ แต่เสือกทำเอง
จะต้องรับผลของกรรมชั่วอย่างหนักอย่างเร็วทันตาเห็น
เหตุการณ์ครั้งนี้ ผมเชื่อว่า
รัฐบาลไม่อยากให้มีใครเจ็บใครตายจริงๆ
แต่ที่มีคนเจ็บคนตายนั้น มีคนในระดับล่างๆ ทำเอง
คงอยากจะเลียเจ้านาย
แต่เมื่อมีผู้เสียชีวิตเมื่อไหร่
รัฐบาลรู้ทันทีว่าแพ้แน่ๆ
และก็แพ้จริงๆ แพ้เร็วด้วย
รัฐบาลชุดนี้ ชอบโจมตีรัฐบาลที่ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า “รัฐบาลมือเปื้อนเลือด” ต่อไปนี้
ก็โจมตีไม่ได้อีกแล้ว เพราะ ตัวเองก็เป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือดเหมือนกันแล้ว
ถึงตอนนี้ ฝ่ายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ก็คงจะต้องรอรับผลของกรรมที่ทำไป
คำว่า “รอรับผลของกรรม” นั้น
เป็นสำนวน คือ ถึงไม่รอ
กรรมก็ไปหาแน่ๆ ที่ผมเขียนไปนี้
ไม่ใช่กรรมในทางบ้านเมือง แต่เป็นกรรมในทางศาสนา
กรรมในทางบ้านเมืองนั้น อาจจะมาช้าบ้าง เพราะ พวกรัฐบาลยังไม่ได้หมดอำนาจไปโดยสิ้นเชิง
ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
ดังนั้น ในทางกฎหมายยังคงทำอะไรได้ไม่มากนัก
แต่กรรมชั่วในทางศาสนานั้น
ส่งผลเร็ว ส่งผลเฉียบขาดอย่างแน่นอน
มือปืนที่มีรูปอยู่นี้
ปรากฏว่า มีคนรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร ทำงานอยู่ที่ไหน ผมเองไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่ได้มีอะไรกัน
ไม่ได้เกลียดชังกันเป็นการส่วนตัว แต่อ่านจากข่าว
ไม่ได้เกลียดชังกันเป็นการส่วนตัว แต่อ่านจากข่าว
การที่รู้ตัวมือปืนอย่างนี้
ผมว่า นักเรียนอาชีวะ หรือนักศึกษารามฯ
คงไม่ปล่อยให้มือปืนดังกล่าวมีชีวิตอยู่อย่างปกติเป็นแน่
การที่มีศัตรูเป็นวัยรุ่น และมีเป็นจำนวนมากนั้น ผมว่า ชีวิตคงไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เพราะ
ไม่รู้ว่า ใครคนไหนคือศัตรู
การที่เห็นว่า ตนเองมีพวกมาก อย่างอวดศักดาโดยการไปฆ่าคนอื่นนั้น
เป็นกรรมหนักอย่างแน่นอน
ดังนั้น กรรมต้องส่งผลแน่ๆ
ผมว่าเร็วเสียด้วยซ้ำ
สำหรับคนสั่งทั้งหลายทั้งปวง ก็ต้องได้รับผลของกรรมเช่นเดียวกัน จะหนักเบามากน้อยก็ตามความแรงของกรรมชั่วนั้นๆ
ผมยังขอบอกอีกว่า
กรรมชั่วนั้น เมื่อทำผิดแล้ว
ยอมรับกรรมชั่วในโลกมนุษย์ไปบ้างจะดีกว่า
ที่จะหนีกรรมชั่วของโลกมนุษย์
แล้วไปรับกรรมในนรกแต่เพียงอย่างเดียว
ผลของกรรมในนรกนั้น บอกตรงๆ ถึงแม้ก่อนตายจะเกลียดกันแบบ ถ้าฆ่ามันได้
ก็จะฆ่ามันให้ตายจริงๆ แต่พอรู้ว่า
มันตกนรกแล้ว ได้รับผลกรรมอย่างไร
ยังนึกสงสารมันเลย
คิดเอาเองว่า กรรมในนรกมันหนักหนาสาหัสขนาดไหน